บริษัท Siri ได้ถูกริเริ่มหลังจากที่ คุณ “ศิริมา” ได้เริ่มประกอบธุรกิจส่วนตัวในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสเริ่มนำภาพพิมพ์ และสินค้างานศิลปะอื่น ๆ ไปจำหน่ายในถนนคนเดินจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในเวลานั้นเองเรียกได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของประวัติศาสตร์ของบริษัท ซึ่งชื่อบริษัท Siri นี้ก็ได้จากการเรียกชื่อคุณศิริมาแบบติดสนุก และเล่นคำ จนได้ชื่อบริษัทมานั่นเอง
โดยงานศิลปะที่คุณศิริมานำไปจำหน่ายนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานเขียนวาดเส้น ซึ่งเรียกได้เป็นพื้นฐานสำคัญลำดับแรกของการทำงานศิลปะ โดยร่วมงานกับคุณ “อมร” ศิลปินคนหนึ่งที่ชำนาญทำงานวาดเส้นด้วยปากกาดำมาตลอดเป็นเวลานาน ในแนวทางของศิลปะไทย และศิลปะประยุกต์ โดยความชอบส่วนตัวของคุณศิริมาที่มีความชอบในผลงานวาดเส้น ประทับใจการนำเสนออย่างง่ายๆ ตรงไปตรงมา และมีความคิดจะขยายผลงานเหล่านี้ไปให้คนทั่วไปได้ชื่นชม จึงได้ศึกษาระบบการพิมพ์ซิลสกรีน (Screen printing) พื้นฐานจากตัวศิลปินโดยตรง เป็นที่มาของงานภาพพิมพ์ลายวาดเส้นลงบนกระดาษทำมือ (สา) และผ้าฝ้าย เพื่อให้ผู้มีรสนิยมและชื่นชอบศิลปะมีโอกาสเก็บสะสมไว้ในคอลเลคชั่นส่วนตัว จนพัฒนาเป็นงานต่าง ๆ และนำออกจำหน่ายสู่ตลาดต่อไป
ในปัจจุบันคุณศิริมาเริ่มมีอายุมากขึ้น จึงทยอยลดบทบาทของตน และมอบหมายงานให้กับบุตรทั้งสองรับไปดูแลต่อไป โดยคุณ “ธาริณี” บุตรีเข้ามารับหน้าที่ฝ่ายการผลิต และคุณ “ธนิต” บุตรชายคนโตเข้ารับหน้าที่ฝ่ายการตลาด ซึ่งบุตรทั้ง 2 นั้นเองที่เป็นผู้ริเริ่มผลักดันร้านค้าสินค้าของชำร่วยเล็ก ๆ เข้าสู่ยุคดิจิตอล และการจำหน่ายสินค้า Online เพื่อที่จะรักษาร้านที่คุณแม่ได้ก่อตั้งขึ้นมาไว้ และเจริญเติบโตต่อไปกับมัน
คุณธนิตซึ่งได้ใช้ชีวิตมากกว่า 20 ปีในเยอรมนี และรับตำแหน่งผู้ช่วยดำเนินการค้าระหว่างประเทศของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) กรุงเบอร์ลิน ภายใต้การดูแลของสถานทูตไทยประจำกรุงเบอร์ลิน นานถึง 9 ปี ทำให้คุณธนิตได้สั่งสมประสบการณ์ด้านการค้า การนำเข้า และ ส่งออก เป็นอย่างดี และในฐานะรุ่นที่ 2 ของครอบครัว จึงได้หาทางที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ ที่ทางบ้านได้ริเริ่มไว้ต่อไป รวมไปถึงการพัฒนาปรับตัวเข้ามาเป็นผู้นำเข้า และผู้ผลิตสินค้าออแกนิค ต่อไป
โดยวิกฤติโคโรน่าในปี 2019 ทำให้ธุรกิจของคุณศิริมาที่เน้นการขายปลีกผ่านร้านค้าแบบ Offline ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติดังกล่าว ทำให้คุณธนิตได้ร่วมกันหารือกันในฐานะคนหนึ่งในครอบครัว Siri จึงเห็นว่า วิกฤติโคโรน่านั้นก็เป็นบทเรียนที่สำคัญที่ทำให้ครอบครัว Siri ต้องปรับตัวตามยุคสมัยมากยิ่งขึ้น จึงเริ่มทยอยปรับธุรกิจส่วนหนึ่งของครอบครัวเข้าสู่ยุคดิจิตอลตาม
Copyright © 2022 Siri All right Reversed